วันที่ 23 มิถุนายน 2554 ณ Apartment ห้วยขวาง
เป็นสภาพประตูหน้าห้องกระผมเอง..หุหุหุ...
|
คลิกเพื่อขยายภาพ |
|
คลิกเพื่อขยายภาพ |
วันที่ 16 เมษายน 2554 ณ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก
เป็นอีกหนึ่งวันนะครับที่ได้เดินทางไปต่างจังหวัดเช่นเคย
ซึ่งวันนี้เราก็ได้ไปนอน ณ Kresident Hotel จังหวัดพิษณุโลก
โดยเราก็ได้ไปทำภาระกิจจนเสร็จสิ้นเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน
เข้าพักคืนละ 650 บาท พร้อมอาหารเช้า และทุกเช้าผมก็จะกินไข่ดาว
วันละ 5 ฟอง+ไมโล 2 แก้ว ขนมปังเนย 4 แผ่น ครบสูตร
แต่ที่เจ๋งกว่านั้นก็คือผมไม่นอนเตียง เพราะผมเอาเต้นท์มากางนอนในห้อง
อ่ะๆ มันเป็นสไตล์
--------------------------------------------------------------------------
พอดี เดินทางกลับถึงบ้านแล้วเกิดอารมณ์อยากร้องเพลงขึ้นมาซะงั๊น!!!
ผมก็เลยหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายซะเลย ฮ่าๆๆ (ทำอะไรก็ได้ที่มีความสุข)
นี่แหละชีวิตของผมหละ
-----------------------------
สุดเขต สเลตเป็ด ความหลังของงานโฆษณารองเท้านักเรียน
PS Junior เมื่อตอนเรียนอยู่ ปี4 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
--------------------------
เพลง อย่าใกล้กันเลย V.2
บอกแล้วว่าว่างจิงๆ เลยร้องแก้ไข V.1 ที่ออกมาก่อนหน้านี้
ฮ่าๆๆ!!! (พุดซะเหมือนจะดีกว่า V.1 ซะงั๊น) 5555+
..............................................................................................
40 เรื่องรัก...ที่ไม่รู้ไม่ได้ (Anit Publishing)
1. อารมณ์หึงเกิดขึ้นได้ทั้งชายและหญิง แต่อารมณ์หึงของผู้หญิงจะซับซ้อนมากกว่าผู้ชาย
2. ผู้ชายร้อยละ 90 ชอบผู้หญิงสวย น่ารัก แต่ผู้ชายร้อยละ 100 อยากอยู่กับผู้หญิงฉลาดและเฉลียว
3. คนที่มีแฟนขี้หึงขั้นรุนแรงมีเพียง 0.000001 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้นที่ชอบนอกนั้นรู้สึกว่าอึดอัด
ผู้ชายทั้งหลายควรจะดีใจที่มีแฟนขี้หึงซะ
4. ไม่เคยมีคู่ไหนไม่ต้องใช้ความอดทนในการรัก เพียงแต่จะเป็นการอดทนในรูปแบบไหนเท่านั้นเอง
5. คนที่มีกิ๊กนอกเหนือจากแฟนตัวจริง คือคนที่ไม่ศรัทธาในความรัก
6. อย่ากลัวการอกหัก เพราะไม่เคยมีใครตายจากโรคอกหัก
มีแต่ความอ่อนแอเท่านั้นที่ทำให้ฆ่าตัวตาย
7. ความรักมักไม่เกิดตอนที่เฝ้ารอ แต่เมื่อปล่อยตัวตามสบาย ความรักมักจะมาทำเซอร์ไพรซ์ให้หัวใจ
8. ถึงจะไว้ใจเพื่อนมากแค่ไหน ก็อย่าให้เพื่อนกับแฟนสนิทกันมากเกินไป เพราะหายนะอาจตามมา
9. ถ้าเรารู้สึกอายที่เดินเคียงข้างแฟนที่ขี้เหร่ นั่นหมายความว่าเราไม่ได้รักเขาจริง
10. อย่าบ่นให้ใครฟังว่าแฟนไม่เคยทำตัวดีขึ้นเลย เพราะจะโดนย้อนว่า "แล้วจะโง่ทนคบอยู่ทำไม"
11. ถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนที่ขี้หึงขั้นรุนแรง อย่าได้เลือกคบผู้ชายที่หน้าตาและมนุษยสัมพันธ์ดีเด็ดขาด
12. การที่ผู้ชายมองผู้หญิงสวย เซ็กซี่ จนเหลียวหลัง
ไม่ได้หมายความว่าเขาต้องการแฟนที่เป็นแบบนั้น
13. ผู้ชายที่ไว้ใจได้ว่าไม่นอกใจแฟนหรือภรรยา มีเพียงแต่ผู้ชายที่อยู่ในโลงเท่านั้น ควรจำให้ขึ้นใจ
14. พยายามทำตัวให้ดีและมีคุณค่ามากกว่าผู้หญิงที่แย่งแฟนเราไป แล้วสักวันแฟนเราจะกลับมาเอง
15. อย่าคบกับผู้ชายที่เอาเรื่องแฟนเก่ามาพูดเสีย ๆ หาย ๆ เพราะเราอาจจะเป็นรายต่อไป
16. ผู้ชายที่รักสัตว์ รักเสียงเพลง รักครอบครัว น่าคบมากกว่าผู้ชายที่รักตัวเองซะอีก
17. อายุที่มากขึ้นอาจทำให้ต้องลดสเปกผู้ชายในฝันลง แต่ข้อที่ไม่ควรลดเด็ดขาด
คือความดีและความจริงใจ
18. ผู้ชายที่เกาะชายกระโปรงผู้หญิงกิน ดูน่ารังเกียจกว่าผู้หญิงที่ชอบปอกลอกผู้ชายหลายเท่า
19. มนุษย์ผู้ชายมีน้อยกว่ามนุษย์ผู้หญิง ผู้ชายที่ดีและเป็นโสดก็มีน้อยกว่าผู้ชายที่เลว
และมีเจ้าของด้วย
20. อย่ารักผู้ชายที่ทั้งขี้เหร่ ขี้เกียจ และขี้เมา เพราะเราจะต้องรู้สึกตกนรกไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน
21. คู่รักที่เดินกอดจูบกันต่อหน้าชุมชน มีแต่ฝ่ายหญิงเท่านั้นที่จะถูกประณามและดูถูกอย่างรุนแรง
22. เซ็กส์ไม่สามารถผูกมัดให้คู่รักอยู่ด้วยกันไปตลอด ความผูกพันต่างหากที่จะดึงรั้งกันไว้ได้
23. อายุไม่ใช่อุปสรรคของความรัก ถ้าความคิดหัวใจตรงกัน ความมั่นคงก็เกิดขึ้นได้
24. ในชีวิตจริงของความรัก เราอาจไม่ใช่นางเอกที่แสนดี บางทีก็ต้องมีไหวพริบในการแย่งชิงบ้าง
25. คนสวยหรือคนหล่อสามารถอกหักได้เหมือนกัน ถ้าทำตัวไม่ดีหรือมีเวลาให้กับความรักไม่พอ
26. ถึงจะได้ยินว่ามีรักที่ไหนมีทุกข์ที่นั่น แต่คนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะมีความรักมากกว่าจะอยู่เป็นโสด
27. เรื่องที่แฟนไม่ยอมเล่าให้ฟังตั้งแต่แรก มักเป็นเรื่องที่เรารู้เมื่อไหร่ควันออกหูอยู่ดี
28. ถ้าชื่นชมในตัวแฟน 100 เปอร์เซ็นต์ ควรบอกเขาแค่ 70 เปอร์เซ็นต์
29. ถึงผู้ชายจะบอกว่าไม่ชอบผู้หญิงแต่งหน้า แต่ผู้ชายก็ไม่ชอบคนที่หน้ามันหรือซีดตลอด
30. ผู้ชายชอบติรูปร่างแฟนหรือคนโน้นคนนี้ โดยลืมดูรูปร่างตัวเองว่าแย่ขนาดไหน
31. คนต่างชาติต่างภาษาสามารถรักกันได้ เพราะภาษาหัวใจเป็นภาษาสากลที่ไม่ต้องการคำแปล
32. ผู้ชายต้องใช้สมองและทักษะมากขึ้นในช่วงที่มีความรัก เพราะผู้หญิงมักปากกับใจไม่ตรงกัน
33. ผู้ชายชอบเป็นฝ่ายไล่ล่า มากกว่าจะป็นฝ่ายถูกล่า ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่จะพยายามหนี
เมื่อถูกตามตื้อ
34. ผู้หญิงอาจไม่ได้เรียกร้องอะไรมากขึ้น แต่เป็นเพราะผู้ชายไม่สามารถทำดีได้เสมอต้นเสมอปลาย
35. รักแรกพบสามารถเกิดได้แค่ 10 เปอร์เซ็นต์ นอกนั้นเกิดจากการใกล้ชิด
และการเรียนรู้กันอย่างลึกซึ้ง
36. คนที่เรารักกับคนที่รักเราอาจไม่ใช่คนเดียวกัน เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าคนเราบังคับหัวใจกันไม่ได้จริง ๆ
37. ทุกคนจะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเมื่อได้มีความรัก และเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นอีกหลังจากอกหัก
38. มือที่สามสามารถเดินเข้ามาในชีวิตเราได้ตลอดเวลา ในความไว้ใจจึงควรมีความระวังอยู่ด้วย
39. อย่ารีบมีแฟนหลังจากอกหัก เพราะเราจะแยกแยะไม่ออกว่านั่นเป็นรักหรือการฆ่าเวลา
40. คนที่รักกันไม่จำเป็นต้องเดินจับมือหรือคุยกันตลอดทาง แค่รู้สึกว่ามีกันและกันก็เพียงพอ
------
15 เทคนิค ที่จะช่วยสร้างความคิดสร้างสรรค์
สำหรับศิลปินแล้ว (ซึ่งจริงๆแล้วผมว่าไม่ใช่แค่ศิลปินหรอก ผมว่าทุกๆอาชีพมันก็ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์หมดแหละนะ) ไม่ว่าใครๆก็คงจะต้องเจอกับสถานการณ์ "สมองตัน" แน่ๆล่ะ... คิดงานไม่ออก ไม่มีแรงบันดาลใจที่จะทำงาน แล้วก็อะไรต่างๆอีกมากมายที่ทำให้เรารู้สึกว่า "คิดไม่ออกว้อยยย!!!"... เฮ่อ! แต่จะทำไงดีล่ะ ทั้งเพื่อนร่วมงาน ทั้งลูกค้า ก็ยังอยากให้เราจะทำงานเจ๋งๆออกมา ณ ช่วงเวลานั้น จะทำไงดีล่ะที่จะทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์ มีแรงบันดาลใจที่จะสร้างงานเจ๋งๆออกมาได้...??
ก็… จริงๆแล้วมันก็มีอยู่หลายวิธีน่ะนะ ที่จะช่วยให้หลอดไฟในหัวของคุณมัน "ปิ๊ง" ขึ้นมาได้ และในบทความนี้ก็จะขอนำเสนอเทคนิคเล็กๆน้อยๆ ที่จะช่วยให้คุณระเบิดความคิดสร้างสรรค์ที่มีอยู่ในตัวคุณออกมาได้ ย้ากกก!!! ตาม มา อ่าน กัน ได้ เลย!!!
1. หาสิ่งที่คุณอยากทำ
หาไปเลย หางาน(งานอดิเรกหรืออาชีพ)ที่คุณรัก หาสิ่งที่คุณทำได้ หรือสิ่งที่คุณคิดว่าคุณอยากจะทำ สิ่งที่คุณรู้สึกว่า "ฉันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้" ซึ่งมันก็อาจจะเป็นได้ทั้ง การเขียน ถ่ายรูป การวาด การปั้น การออกแบบ และการทำสิ่งอื่นๆอีกมากมาย ที่คุณรู้สึกว่ามันจะช่วยให้คุณแสดงพรสวรรค์ของคุณออกมาได้
2. อ่านหนังสือ
เมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกว่าตัวเองเริ่มมีอาการ "สมองตัน" การอ่านหนังสือดีๆสักเล่มช่วยคุณได้ครับ ไอเดียดีๆบางอย่างมันจะค่อยๆผุดขึ้นมา และมันจะดียิ่งขึ้นถ้าคุณหาข้อมูลที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณทำ
ก็แนะนำให้อ่านบทความดีๆนะครับ ทั้งหจากหนังสือ บล็อก หรือบทความในอินเตอร์เน็ต บทความที่ช่วยเสริมสร้างการคิด บทความที่ช่วยกระตุ้นตัวคุณ สร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณ และสร้างความคิดสร้างสรรค์ให้กับคุณ
3. ฝึกฝน
"ฝึกฝนเพื่อไปสู่ความเพอร์เฟ็กต์" จัดไปครับ การฝึกฝนเป็นสิ่งที่ดีมากๆที่จะช่วยลับฝีมือของคุณ อยากทำอะไรก็ทำมันไปเรื่อยๆ ทำไปทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการเขียน ออกแบบ ถ่ายภาพ ฯลฯ ยิ่งคุณฝึกฝนมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งรักในสิ่งที่คุณทำมากขึ้น เพราะคุณจะรู้สึกสนุกกับกับฝึกฝน สนุกกับการหาแนวทางการทำงานใหม่ๆ และสนุกกับการที่เห็นงานของคุณดีขึ้นมาเรื่อยๆ
4. รับฟังข้อคิด แนวคิด ความคิดเห็นจากผู้อื่น
ง่ายๆครับในสมัยนี้ ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ค ออนไลน์ไปครับ ลองแลกเปลี่ยนความรู้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนอื่นๆดู แต่ให้ดีก็ต้องหาเวลามาพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนๆก็จะดีกว่า เพราะการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนั้นช่วยให้คุณฝึกคิด รับอรรถรสของการสื่อสารได้อย่างเต็มที่ แลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ดีกว่า และ อาจช่วยให้คุณมีความคิดดีๆผุดขึ้นมาด้วยนะ
5. ฟังเพลง
ก่อนที่จะเริ่มทำงานใหม่ๆ ไม่ลองฟังเพลงดีๆที่คุณชอบและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณได้ดูล่ะ! การฟังเพลงดีๆช่วยสร้างพลังให้กับคุณครับ พลังที่ทรงประสิทธิภาพที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คุณอยากทำงาน ศิลปินบางคนทำงานไปและฟังเพลงไป บางทีร้องตามไปด้วย สนุกสุดๆเลย!!
6. ออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์
ออกไปหาธรรมชาติบ้างครับ ให้ธรรมชาติสร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณ แทนที่จะอุดอู้อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ การเปลี่ยนบรรยากาศจะช่วยให้คุณดีขึ้นครับ การเดินเล่น ออกไปสัมผัสพลังของธรรมชาติก็ช่วยให้คุณสมองโล่งและช่วยให้คุณมีความคิดดีๆออกมาได้ รวมถึงการออกกำลังกายเล็กๆน้อยๆก็ยังช่วยกระตุ้นสมองคุณได้ด้วยนะ
7. อย่ากลัวที่จะลองทำอะไรใหม่ๆ
เวลาทำงาน งานอะไรก็ได้ ลองทำอะไรใหม่ๆดูบ้าง การทำงานแนวทดลอง ลองใช้วัสดุใหม่ๆ วิธีการใหม่ๆ แนวคิดใหม่ๆ อุปกรณ์ใหม่ๆ อย่าลืมว่าความคิดสร้างสรรค์มันไม่มีลิมิต แนวคิดนี้อาจะช่วยให้คุณทำงานเจ๋งๆแบบที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนออกมาก็ได้นะ
8. ลองทำตัวเป็น "คนไม่คิดอะไร" ดูบ้าง
การไม่คิดอะไร หรือ การทำให้สมองว่าง ก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้คุณผ่อนคลาย อาจจะเริ่มง่ายๆด้วยการจ้องมองบนผนังที่ว่างเปล่า หรือลองไปสัมผัสสนามหญ้านุ่มๆ หายใจเข้าออกลึกๆ และปล่อยวางความคิดต่างๆที่ทำให้คุณเครียดหรือเป็นกังวล แต่การทำให้สมองว่างมากเกินไปก็ไม่ดีเท่าไหร่นะ อาจจะดูเป็นคนที่ไม่คิดอะไรจนเหมือนกับว่าเรากลายเป็นซอมบี้ไปเลยก็ได้ เหอๆ
9. ลองทำงานแบบผิดๆดูบ้าง ก็ไม่เห็นเป็นอะไร
ถ้าเกิดคุณทำงานออกมาแล้วคุณไม่ชอบงานนั้น อย่าเพิ่งไปหงุดหงิดครับ ใครจะไปรู้ อาจมีคนชอบงานที่คุณไม่ชอบก็ได้ อย่าลืมว่าแต่ละคนมีมุมมองที่ต่างกันไป และนั่นก็อาจจะทำให้คุณกลับมาชอบงานของตัวเอง ดังนั้นอย่ากลัวที่จะทำงานแบบผิดๆออกมาครับ อย่ากลัวที่จะผิดพลาด และถ้ารู้สึกว่ามีข้อผิดพลาด ให้ใช้ความผิดพลาดนั้นเป็นตัวกระตุ้นให้คุณทำงานที่ดียิ่งๆขึ้นไป ไม่ว่างานนั้นมันจะยากแค่ไหนก็ตาม
10. เล่น เล่น เล่น และเล่นให้สนุก
ถ้ารู้สึกว่าทำงานออกมาแล้วตั้งไม่รู้กี่ชิ้นต่อกี่ชิ้น แต่ก็ยังไม่มีงานที่ชอบเลย!! พักก่อนครับ ออกไปเล่นอะไรกัน จะเล่นกีฬา เล่นเกม หรือลองทำอะไรที่คุณอยากจะทำแต่ยังไม่เคยมีโอกาส เช่น ทำเบเกอร์รี่ เขียนกลอน หรือทำอะไรอื่นๆก็ได้ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้กลับมาสดชื่นและมีพลังขึ้นมาอีกครั้ง
11. เปิดใจและรับฟังความคิดเห็น
เวลาที่คุณทำงาน คุณควรรับฟังความคิดเห็นและคำวิจารณ์ เพราะมันอาจช่วยให้คุณพัฒนางานขึ้นมาได้มาก อย่าเพิ่งไปหงุดหงิดเมื่อได้ยินคนบอกให้คุณทำอย่างโน้นทำอย่างนี้ อย่าเพิ่งไปต่อต้าน ให้คุณรู้สึกดีที่ได้ยินคำวิจารณ์หรือข้อคิดเห็น เพราะนั่นแสดงให้เห็นว่า "พวกเขาสนใจในงานของคุณ" และนั่นก็เป็นอีกกำลังใจของศิลปินนะครับ เพราะฉะนั้น ขอให้เปิดใจไว้กว้างๆ...นะ
12. จงสนุกกับสิ่งที่กำลังทำอยู่
ความลับอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จก็คือ การใส่ใจและใส่ความสนุกลงไปในงาน แม้ว่าจะเจอสิ่งที่ผิดพลาดก็อย่าเพิ่งไปหงุดหงิด ยิ้มเข้าไว้ แล้วคุณจะรู้ว่ายิ่งคุณสนุกกับงานมากเท่าไหร่ งานของคุณก็จะยิ่งออกมาดีมากขึ้นเท่านั้น จงยิ้ม...แล้วงานของคุณจะสะท้อนความสุขที่มีอยู่ในตัวคุณออกมาได้ด้วยล่ะ
13. ต้องมีสมาธิ
เมื่อไหร่ที่คุณมีไอเดียดีๆและมีพลังที่จะทำงาน ขอให้มีสมาธิกับมันครับ ไอเดียดีๆที่คุณมีมันจะหายไปถ้าคุณมีอาการวอกแวก คนบางคนนั้นฝึกตัวเองให้ทำงานได้แม้จะมีสิ่งเร้าต่างๆรอบตัว พวกเขาฝึกตนเองให้มีสมาธิกับงานได้ แม้ว่ารอบๆตัวของพวกเขาจะมีอะไรบ้าบอคอแตกเกิดขึ้นก็ตาม
14. พยายามหาเวลาว่างๆไว้คิดอะไรเล่นๆ
การทำงานมากเกินไปจะทำให้คุณเครียดและทำให้สมองเหนื่อยล้าครับ ทำให้ตัวคุณเองมีเวลาว่างไว้คิดอะไรเล่นๆบ้าง แล้วคุณจะพบกับความสนุกและแนวความคิดใหม่ๆ และที่สำคัญที่สุด ลองคิดอะไรที่มันเกินโลกของคุณดูครับ คิดอะไรที่มันนอกเหนือจากกรอบความคิด คิดอะไรที่มันนอกเหนือจากที่ตาเห็น คิดอะไรที่มันนอกกรอบ แล้วคุณจะพบเจอกับคำตอบที่คุณคิดว่ามันไม่เคยมี
15. มองโลกในมุมมองอื่นดูบ้าง
เวลาที่เราพูดถึงการทำงานแบบยืดหยุ่น มันหมายถึงการที่คุณสามารถทำงานได้ในหลายๆมุมมอง ลองใส่หมวกใบอื่นๆดูบ้าง ลองแปลงร่างเป็นคนอื่นดูบ้าง ลองคิดดูว่าถ้าคุณเป็นคุณครู ถ้าคุณเป็นเด็ก ถ้าคุณเป็นนักธุรกิจ หรือใครๆก็ตามแต่ จะมีความรู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นงานของคุณ เมื่อคุณทำแบบนั้นได้ งานของคุณก็จะสร้างความพึงพอใจให้กับใครหลายๆคนได้ รวมถึง คุณลองเปลี่ยนอุปกรณ์ที่คุณใช้ในการทำงานดูก็ได้ ลองเปลี่ยนวัสดุ ลองเปลี่ยนวิธีการต่างๆที่สร้างงานของคุณออกมา
กุญแจสำคัญที่จะทำให้คุณอยู่ในห้วงของความคิดสร้างสรรค์ได้ตลอดเวลาก็คือ คุณต้องทำให้ความคิดสร้างสรรค์เป็นส่วนหนึ่งของตัวคุณ ซึ่งคุณอาจมีไอเดียดีๆได้ตลอดเวลา เช่น ตอนที่กำลังขับรถ หรือตอนที่กำลังแปรงฟัน และถ้าคุณทำแบบนี้ได้ การเผชิญหน้ากับปัญหา "สมองตัน" ก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป...
ก็… ขอพลังและความคิดสร้างสรรค์จงอยู่คู่กับทุกคนตลอดไปครับ (คำจากพี่แก็ป ทีโบน)
ขอบคุณครับ
พัทธพล บัวล้อมใบ
20/04/2554
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น